เมอร์ค ประเทศไทย ดึงนักวิจัยร่วมสัมมนาความคืบหน้า“วัคซีนใบยา”ผลเฟสแรกปลอดภัย - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Wednesday, October 6, 2021

เมอร์ค ประเทศไทย ดึงนักวิจัยร่วมสัมมนาความคืบหน้า“วัคซีนใบยา”ผลเฟสแรกปลอดภัย


   
บริษัท เมอร์ค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจยา เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ทางนวัตกรรม จัดสัมมนาออนไลน์ Covid-19 Vaccines and Thailand's Stance in the World Marketนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของสองนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และติดตามความคืบหน้าของงานวิจัยพร้อมนำเสนอนวัตกรรมเครื่องมือที่ตอบโจทย์การศึกษาทางด้านการตรวจวิเคราะห์ทางภูมิคุ้มกันวิทยาแบบองค์รวม(Multiplexing Platform)

    รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ผู้คิดค้นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากใบยาสูบแห่งแรกในประเทศไทย กล่าวว่า วัคซีน“ใบยาซาร์สโควีทูแวกซ์1(Baiya SARS CoV-2 Vax1)”เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด โปรตีนsubunit ที่ผลิตโดยพืชใบยาสูบสายพันธุ์ดั้งเดิมจากประเทศออสเตรเลียซึ่งในอุตสาหกรรมยาทั่วโลกมีการใช้พืชเป็นแหล่งผลิตสารสำคัญต่าง ๆ ถึง 95% โดยใช้เทคโนโลยีในการนำสารพันธุกรรมของไวรัสเข้าสู่พืชด้วยแบคทีเรีย และกระตุ้นให้พืชผลิตโปรตีนของไวรัสตามที่ต้องการ ซึ่งโปรตีนที่ได้จากเทคนิคดังกล่าวจะมีความบริสุทธิ์และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ปลอดภัยต่อการใช้งานโดยที่ผ่านมาได้ทำการทดลองกับลิง และหนูขาวพบว่ามีการสร้างแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ปอดและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง


    
รศ.ดร.วรัญญูเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อรับวัคซีนใบยา สำหรับการทดสอบระยะที่ 1 โดยมีการทดลองในระยะนี้ไปแล้วทั้งหมด 16 คน ซึ่งผู้ที่เข้ารับวัคซีนเป็นอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีมีอายุระหว่าง18 – 75 ปี และไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นมาก่อนซึ่งหลังจากที่มีการทดสอบกับอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนใบยาในปริมาณ 10 ไมโครกรัมพบว่าปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงโดยหลังจากนี้จะมีการทดสอบเพื่อดูปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมว่าควรจะเพิ่มปริมาณวัคซีนอย่างไรเพื่อให้ได้ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดและหวังให้คนไทยได้ใช้วัคซีนในช่วงกลางปี2565ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเรามีองค์ความรู้ในการพัฒนาวัคซีนด้วยตัวเองแล้ว ประเทศไทยของเราก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเชื้ออื่นๆในอนาคต


   
นายโชติวัฒน์ สีเพชรดี นักศึกษาปริญญาเอก ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้วิจัย และพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิดmRNA ในประเทศไทย เปิดเผยว่า วัคซีน COVID-19 ชนิด subunit โดยใช้ Spike protein เป็นแอนติเจน ซึ่งโปรตีนดังกล่าวได้รับการดัดแปลงให้มีความเสถียรมากขึ้นโดยการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโน 6 ตำแหน่งให้เป็น "Proline" (HexaPro) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 ตำแหน่ง (S-2P) ซึ่ง S-2P ถูกใช้ในวัคซีนของหลาย ๆ บริษัท อาทิ Moderna, Pfizer-BioNTech, Novavax, Janssen (J&J) ซึ่งทีมวิจัยได้ทดสอบวัคซีน HexaPro subunit (+ alum adjuvant) ในหนูทดลองและพบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิด neutralizing antibody ได้ในระดับที่เทียบเท่าหรือมากกว่าในผู้ป่วย COVID-19 นอกจากนี้ยังมีวัคซีนชนิดอื่น ๆ ที่ใช้แอนติเจนรูปแบบ HexaProและกำลังทดสอบในระยะคลินิกในประเทศไทยได้แก่ NDV-HXP-S โดยองค์การเภสัชกรรมร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages