วงเสวนา ชี้ชัด "น้ำเมา" ทำขาดสติ การ์ดตก ซ้ำเสี่ยงติดโควิดเพิ่ม 3 เท่า - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Thursday, June 17, 2021

วงเสวนา ชี้ชัด "น้ำเมา" ทำขาดสติ การ์ดตก ซ้ำเสี่ยงติดโควิดเพิ่ม 3 เท่า


     ย้ำปมการระบาดในไทยจุดสำคัญเกิดจาก ผับ บาร์ ตั้งวงวงปาร์ตี้ กินดื่ม ด้านอดีตคอทองแดง เผยซดเหล้าหนัก ทำตับพัง ทำงานหนักไม่ได้ซ้ำร้ายมาติดโควิด ยิ่งลำบากหนัก และต้องรักษาตัวนานกว่าปกติ

 

    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่ลานเอนกประสงค์ชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดเสวนาออนไลน์ “ถอดบทเรียนชีวิตคนติดเหล้า ในวันที่ติดโควิด-19” โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเพจเฟซบุ๊ค “เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง”
 

    น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก กล่าวว่า จากสถานการณ์และผลกระทบต่อพฤติกรรมการดื่มสุราในยุคโควิด-19 ในปัจจุบัน พบว่า ปัญหาพฤติกรรมดื่มสุรา ก่อให้เกิดการสูญเสียปีสุขภาวะจากภาวะบกพร่องทางสุขภาพ เป็นอันดับหนึ่งในเพศชาย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โดยคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีปัญหาพฤติกรรมดื่มสุรา 2.7 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มที่ดื่มแบบดื่มแบบอันตราย ประมาณ1.8 ล้านคน และกลุ่มที่ดื่มแบบติดสุรา ประมาณ 9 แสนคน ทั้งนี้จากจำนวนคนที่ดื่มประมาณ 15.9 ล้านคน ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการดื่มเฉลี่ยมากกว่า 17,000 คนต่อปีในสถานการณ์ปกติ แต่ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่มีโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่ยืนยันว่าการดื่ม ปาร์ตี้ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ซึ่งจนถึงขณะนี้แนวโน้มการระบาดของประเทศไทยก็ยังไม่ลดลง จำนวนผู้ติดเชื้อรายงานยังอยู่ในหลัก 2-3 พันรายต่อวัน ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนมีมาตรการควบคุมโรคส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น ทั้ง การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม งดปาร์ตี้ตั้งวง และถ้าลดละเลิกได้จะดีที่สุด
 

    รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ และผู้อำนวยการศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยเฉพาะการดื่มต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจำนวนมาก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ที่น่ากลัวคือโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคตับ กระเพาะอาหารอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้ช่วงนี้ที่ประเทศไทยมีการระบาดของโรคโควิด-19 จะพบว่าในจำนวนของผู้ป่วยที่อาการหนัก และเสียชีวิตนั้นส่วนใหญ่จะมีโรคร่วมเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ขาดสติ ความสามารถในการป้องกันตัวเองลดลง อย่างที่เห็นในรายงานสถานการณ์ว่าเกิดการติดเชื้อจากการปาร์ตี้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเหล้า เบียร์แก้วเดียวกัน เป็นต้น
 

    “เราพบข้อมูลว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโควิดได้2-3 เท่า ดังนั้นในช่วงที่โรคกำลังระบาดหนัก หากเป็นไปได้ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลง ก็จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อลงได้อย่างมาก ส่วนคนที่มีอาการติดสุรา โดยเฉพาะกรณีมีอาการรุนแรงนั้น ควรไปสถานพยาบาลปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาช่วยเลิกสุรา เพื่อให้เราสามารถมีสติในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อได้ หรือสามารถเข้าไปเว็บไซต์ช่วยเลิกสุราได้ที่ www.1413.in.th เพื่อดูข้อมูลหรือขอรับคำปรึกษาเรื่องการเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้” รศ.พญ.รัศมน กล่าว
 


    ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ชาวชุมชนวัดสวัสดิ์สารีสีมาราม อายุ 47 ปีกล่าวว่า ตนดื่มเหล้าหนักตั้งแต่วัยรุ่น ดื่มมากจนเกิดอาการติด ต้องดื่มทุกวัน ตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ทำคือดื่มเหล้า หลังเลิกงานก็ต้องดื่ม ต้องมีติดบ้านไว้ตลอด กระทั่งเมื่อหลายปีปีก่อนมีอาการเวียนหัว อาเจียนเป็นเลือด ตาเหลือง หน้าคล้ำ ท้องบวมโต จึงไปโรงพยาบาลแพทย์ตรวจและระบุว่าเป็นโรคตับแข็ง ต้องเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด แม้จะอยากดื่ม แต่ก็มุ่งมั่นจนสามารถเลิกดื่มโดยเด็ดขาดมาจนถึงปัจจุบัน และยังต้องหาหมอ กินยารักษาโรคตับแข็งมาตลอด การใช้ชีวิตลำบากไม่สามารถทำงานหนักได้ เพราะเหนื่อยง่าย นานๆ อาการกำเริบ ท้องบวม เบลอ สับสน พูดไม่รู้เรื่อง
 

    “ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แม่ติดโควิด-19 มาจากคนรู้จักเพราะมีการพูดคุยกันโดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยเนื่องจากตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อ เนื่องจากครอบครัวอยู่รวมกัน 4-5 คน ทำให้ติดเชื้อกันทั้งบ้านรวมผมด้วย อย่างไรก็ตามระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ลืมนำยารักษาโรคตับแข็งไปด้วย ซึ่งการขาดยาทำให้เกิดภาวะเบลอ หลงลืม ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อุจจาระ ปัสสาวะราดไม่รู้ตัว ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระ ทั้งนี้ ต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าคนอื่น คุณหมอต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ เพราะถึงแม้การรักษาโควิดหายแล้ว ไม่มีเชื้อฯ แล้วแต่ยังต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกหลายวันเพื่อรักษาโรคเดิมคือตับแข็ง ซึ่งจากโรคที่เป็นอยู่ก็ยากลำบากมากแล้ว มาติดโควิดอีกยิ่งหนักหนาสาหัส โชคยังดีที่ผมและครอบครัวได้รับการดูแลช่วยเหลือจากผู้นำชุมชนและเพื่อนบ้าน ตั้งแต่การมาชวนลดละเลิกเหล้าก่อนหน้านี้ จนกระทั่งการช่วยเหลือประสานงานดูแลช่วงติดโควิด จึงอยากเชิญชวนคนที่ยังดื่มอยู่ใช้โอกาสช่วงโควิดนี้เลิกเหล้า ยิ่งใกล้เข้าพรรษาแล้วลองตั้งใจดูลด ละ แล้วก็เลิก” นายเอ กล่าว

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages