ศบค.ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด ให้นั่งทานอาหารในร้านไม่เกินร้อยละ 50 - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Friday, June 18, 2021

ศบค.ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด ให้นั่งทานอาหารในร้านไม่เกินร้อยละ 50


    นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม ศบค. ผ่อนคลายมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เปิดให้นั่งกินในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 50 กรณีมีเครื่องปรับอากาศ เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. ยังคงงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหารในพื้นที่แดงเข้ม เริ่ม 21 มิถุนายนนี้


    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 8/2564 ผ่านระบบ Video Conference

    หลังการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ขอบคุณทุกกระทรวงและส่วนราชการ ที่ร่วมดูแลประชาชนทั้งประเทศ พร้อมกำชับให้เร่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมและแอพพลิเคชันพื้นที่ เนื่องจากว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสูงวัย รวมทั้งบริหารจัดการฉีดกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ครู แรงงาน สถานประกอบธุรกิจต่าง ๆ ภาคอุตสาหกรรม โดยให้สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่มีให้ชัดเจนเพื่อลดปัญหาการเลื่อนนัด พร้อมชื่นชมการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของไทยที่มีความก้าวหน้า ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งสำหรับการทดสอบทดลองกับมนุษย์ 

 

    โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประกาศเป้าหมายการเปิดประเทศว่า เป็นนโยบายเชิงยุทธศาสตร์เพื่อนำพาประเทศไปสู่อนาคตนำร่องภูเก็ต Sandbox วันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งกำหนดให้เปิดพื้นที่เป็นเกาะก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สามารถควบคุมตรวจสอบ คัดกรอง จากนั้นจะทยอยเปิดพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

    นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติการผ่อนคลายมาตรการตามระดับของพื้นที่ ดังนี้ 1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) - สามารถจัดกิจกรรมรวมคนได้ไม่เกิน 50 คน ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. สามารถนั่งทานในร้านอาหารได้ งดการจำหน่ายสุราในร้าน กรณีร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศสามารถนั่งรับประทานได้ไม่เกินร้อยละ 50 ศูนย์การค้าเปิดทำการได้ไม่เกิน 21.00 น. ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก และงดการเล่นกีฬา ยกเว้นกลางแจ้ง และสามารถแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชม
 

    2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) - สามารถจัดกิจกรรมรวมคนได้ไม่เกิน 100 คน ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. สามารถนั่งรับประทานในร้านอาหารได้ งดการจำหน่ายสุราในร้าน สามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากได้แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สถานที่เล่นกีฬาสามาถเปิดบริการได้ทุกประเภทแต่ต้องไม่เกิน 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม
 

    3. พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) - สามารถจัดกิจกรรมรวมคนได้ไม่เกิน 150 คน งดการจำหน่ายสุราในร้าน สถานที่เล่นกีฬาสามารถเปิดบริการได้ทุกประเภท และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดจำนวนผู้ชม
4. พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) - สามารถจัดกิจกรรมรวมคนได้ไม่เกิน 200 คน สถานที่เล่นกีฬาสามารถเปิดบริการได้ทุกประเภท และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดจำนวนผู้ชม โดยจะเริ่มผ่อนคลายตามมาตรการดังกล่าวในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ประเภทสถานที่กักกัน สถานที่กักกันทางเลือก (Alternative Quarantine : AQ) เดินทางเข้าประเทศทางอากาศ รัฐจะสนับสนุนค่าตรวจหาเชื้อโควิด เฉพาะผู้มีสัญชาติไทย สถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine : OQ) รับรองคนไทยที่เป็นแรงงานไทยเดินทางกลับจากการทำงานในต่างประเทศ และกรณีผู้มีสัญชาติไทยที่ประสบปัญหาทุกข์ยากในต่างประเทศ (กลุ่มเปราะบาง) สำหรับสถานที่กักกันของรัฐ (State Quarantine : SQ) ผู้มีสัญชาติไทยที่เดินทางเข้าประเทศทางบก รัฐยังคงรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

    ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย คือ 1) หลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัด เดือนกรกฎาคม 2564 โดยมีเป้าหมายให้บริการวัคซีน 10 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคม โดยพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ที่ได้จองวัคซีนล่วงหน้าในระบบหมอพร้อม (ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง) ก่อน รวมทั้งพิจารณาให้กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5 ล้านโดส และให้ภูเก็ต ได้รับวัคซีนที่เข็ม 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564

    "นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่ารัฐบาลบริหารสถานการณ์ 2 ด้าน คือด้านสาธารณสุขและการเปิดพื้นที่และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นขั้นตอนตามลำดับ เริ่มจากเปิดพื้นที่ เปิดกิจกรรม เปิดในประเทศ และเปิดต้อนรับต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า การเปิดประเทศเริ่มจากการเปิดใจ และมั่นใจในความร่วมมือ ร่วมใจของทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนประเทศร่วมกัน" นายอนุชา กล่าว

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages