“สามารถ”วิเคราะห์ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ “ก้าวไกล”ฝีปาก-ข้อมูลเหนือกว่า”เพื่อไทย”หลายขุม - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Wednesday, July 20, 2022

“สามารถ”วิเคราะห์ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ “ก้าวไกล”ฝีปาก-ข้อมูลเหนือกว่า”เพื่อไทย”หลายขุม


     แต่เสียดายฝ่ายค้านให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชนน้อยเกินไป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาแชร์ลูกโซ่-แก๊งคอลเซนเตอร์

 

    เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจวานนี้(19ก.ค.)ว่า ตนเห็นฝ่ายค้านได้โหมโรงโดยการนำเสนอธีมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ชนิดดุเดือดเผ็ดร้อนของพรรคเพื่อไทย ได้ชูธีมว่า" ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้าน" ส่วนพรรคก้าวไกล ชูธีมว่า"ตอกตะปูดปิดตาย ทลายระบอบประยุทธ์"
นายสามารถ กล่าวว่า ตนคาดหวังว่าจะได้เห็นข้อมูลการอภิปรายที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจากการฟังอภิปรายตั้งแต่เริ่มต้นที่หัวหน้าฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้นายกฯ แต่กลับถูกนายกฯสวนจนน๊อคกลางสภาฯ และถัดมานายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมฯ และปิดท้ายที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ
นายสามารถ กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ตัวแทนพรรคก้าวไกล ที่ได้มีการเตรียมการบ้านมาอภิปรายอย่างดี ซึ่งก็หวังว่าจะไม่ใช่ข้อมูลเท็จ และเรื่องนี้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องชี้แจงให้ชัดเจนด้วยเพราะมีผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล
 

    "สิ่งที่ผมเสียใจคือพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญต่อปัญหาที่พ่อแม่ พี่น้องประชาชนต้องหมดตัวจากเรื่องการถูกฉ้อโกง หลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่น้อยไปหน่อย ซึ่งจากการฟังนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เขต2จังหวัดเลย จากพรรคเพื่อไทย ที่หยิบยกปัญหาดังกล่าวมาอภิปรายมีความความตั้งใจดีและพยายามที่จะสะท้อนเรื่องนี้แต่ด้วยความขาดปัญญาและข้อมูลที่แม่นยำ จึงทำให้การอภิปรายล่องลอยไปหน่อย"
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนคาดหวังว่าการอภิปราย 3 วัน คือช่วงวันที่ 20-22 กรกฎาคมนี้ ทางพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีตัวผู้อภิปรายจากก้าวไกลที่ดูเหมือนจะอภิปรายตรงประเด็นมากกว่าพรรคเพื่อไทย
นั้น หวังว่าจะมีการหยิบยกปัญหาของประชาชนที่เดือดร้อนและไม่มีทางออกเพื่อมาพูดสะท้อนปัญหาให้นายกรัฐมนตรีได้ทราบ
 


    ทั้งนี้ สามารถจะหยิบยกข้อมูลจากโลกโซเชียลก็จะพบว่าปัญหาใหญ่อันดับแรกคือการหลอกลวงเงินจากกระเป๋าของพ่อแม่พี่น้องประชาชน อย่างล่าสุดมีคนถูกหลอกลงทุนแอพNas App มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 6,000คน มูลค่าเสียหายจำนวน 6,000ล้านบาท รวมทั้งการหลอกลวงลงทุนในแชร์ลูกโซ่ ซึ่งนายศรัณย์ พูดว่าเป็น Hybrid scram ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะมันคือพอนซี่สแกรม ทั้งนี้ขออย่าบิดคำพูดใหม่ด้วยความเป็นเด็ก แต่ตระกูลทิมสุวรรณเป็น ผู้กว้างขวางในจังหวัดเลย จึงทำให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นส.ส. แต่หากนายศรัณย์ ทำการบ้านมาดี จะทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่านี้
นอกจากนี้ หากค้นหาข้อมูลการหลอกลวงในรูปแบบดิจิตอล ซึ่งเฉพาะปี2565 ก็จะปรากฏข้อมูลขึ้นมามากมาย แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแล ชี้แจงการถูกอภิปรายว่าการหลอกลวงในรูปแบบออนไลน์ไม่มีวันหมดนั้น ก็คงต้องมีการเปลี่ยนตัวรมต. ซึ่งหากตัวรัฐมนตรีมีแนวคิดแบบนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนจะได้รับการปกป้องอย่างไร รวมทั้งบอกว่า SMS หลอกลวงแบบให้กด Link ไม่มีแล้ว แต่ปรากฏว่าวานนี้มีชาวบ้านส่งข้อมูลมาให้ดูว่ายังคงมีอยู่

    คนบางคนยังไม่เข้าใจว่า Call Center หลอกให้โอนเงินได้อย่างไร ซึ่งเขาใช้วิธีการเมื่อเราหลงเชื่อกดลิงค์ที่มิจฉาชีพส่งมาให้ก็จะสามารถเข้ามาแฮกข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในมือถือของเราได้ เพราะฉะนั้น เจ้ากระทรวงที่ดูแลต้องมีความเข้าใจ ส่วนปัญหาที่อ้างว่าชาวบ้านไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่แล้วส่งเรื่องที่กองบัญชาการสอท. แต่ปรากฏว่าสอท.ก็ส่งเรื่องกลับไปที่โรงพัก หากจะให้ปัญหาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขไม่ยาก โดยให้สอท.มีพนักงานสอบสวน ที่มีอำนาจสอบสวนตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาคดีอาญา แต่ว่าวันนี้สอท.ไม่มีอำนาจ ซึ่งช่วงระหว่างกระบวนการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ก็ให้ปอท.ที่มีอำนาจการสอบสวนดำเนินการสอบสวนไปก่อน ทั้งนี้ สามารถทำได้ทันทีและทำได้รวดเร็วเพียงรมต.เจ้ากระทรวงฯเข้าใจปัญหา
 


    ผมจึงหวังว่าการอภิปรายในอีก 3 วัน ซึ่งฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงคะแนนมติไว้วางใจเป็นครั้งสุดท้ายนั้น จะทำการบ้านเอาข้อมูลเรื่องการทุจริตที่แท้จริงไม่ใช่เป็นการมโนปั้นแต่ง มาดิสเครดิตนายกรัฐมนตรี
 

    อย่างไรก็ตาม ผมขอเป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ประชาชนที่ถูกหลอกลวงและฉ้อโกง ที่ต้องสูญเสียเงินทั้งที่หามาด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและยากลำบาก ต้องถูกตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจเพราะความไม่รู้ของหน่วยงานรัฐที่ปล่อยปละละเลย ทั้งๆที่จะต้องรีบเร่งแก้ไขความเดือดร้อนให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน ไม่ใช่บอกว่า เทคโนโลยีมีมาก จำนวนอาชญากรรมก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เราต้องหามาตรการและกฎหมายใดที่จะนำมาสู่การใช้แก้ปัญหา

    ในขณะที่ประเทศจีนมีเทคโนโลยีและจำนวนประชากรก็มากกว่าเรา และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็มากกว่าเรา แต่ทำไมประเทศอื่นจึงสามารถปกป้องคนในประเทศของเขาได้ เราจะเห็นจากต่างประเทศว่าเขาสามารถทลายแหล่ง Call Center แชร์ลูกโซ่ที่อยู่ในประเทศของเขาได้ มันคือสิ่งที่ตนอยากให้ฝ่ายค้านนำความเดือดร้อนของประชาชนมาสะท้อนให้ทราบ ไม่ใช่การเอามาพูดในสภาฯเพื่อจะไดัพูดมาบอกรัฐบาลแล้วไม่ทำอะไร ซึ่งจะทำให้ประชาชนสิ้นหวัง แต่ผมยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ความตั้งมั่นตั้งใจซึ่งจะเห็นได้จากการอภิปราย 3 วันที่ผ่านมาสามารถตอบได้ดี ทั้งนี้ ผมว่าหวังว่าการอภิปรายรัฐมนตรีคนใด ที่ตอบไม่ตรงประเด็นได้นั้น นายกฯต้องมีความเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหานี้

 

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages