ชี้หยิบยกข้อมูลเท็จมาพูดในสภา ถ้าอภิปรายแบบนี้ในอีก 2 วันที่เหลือมั่นใจผ่านฉลุย
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว แสดงความคิดเห็นภายหลังจากได้รับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าการพูดอภิปรายไม่ไว้วางใจ3เรื่อง โดยพรรคฝ่ายค้าน3คนนั้น ตนได้รับฟังเสียงสะท้อนความคิดจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ไม่มีขุนพลมือดีกว่านี้แล้วหรือในการที่จะเอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาอภิปรายให้ประชาชนได้ฟัง แต่ปรากฏว่าเอาข้อมูลเท็จมาอภิปรายและกล่าวหาพลเอกประวิตร ให้เสียหาย
ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องชี้แจง เพราะไม่งั้นก็จะทำให้คนเข้าใจตัวพลเอกประวิตรผิด และก็จะทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเกิดความแตกแยก เพราะเข้าใจในเรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายฯผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องGT200 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาฬิกา หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดที่3ส.ส.ขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตร นั้นผมว่าพูดด้วยความไม่รู้หรืออาจจะเชื่อในสิ่งที่ผิด
ผมขอเริ่มที่เรื่องยาเสพติดก่อนนะครับที่ส.ส.มนพร ได้มาอภิปรายเรื่องยาเสพติดว่าระบาด เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดที่ล้มเหลวและพาดพิงไปที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าไม่น่าเชื่อเลยว่านางมนพร เจริญศรี ที่เป็นถึง ส.ส.นครพนม สังกัดพรรคเพื่อไทย จะอภิปรายข้อมูลเท็จได้ยาวนานขนาดนี้ ผมว่าถ้าไม่ใช่ข้อมูลที่ได้มาเท็จก็น่าจะเป็นแนวทางความคิดของนางมนพรเองที่เชื่อว่ามีการปราบปรามยาเสพติดระบาดแบบนี้เพราะมีเงินใต้โต๊ะ มีคนมีสี มีส่วย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นภาพจำที่นางมนพร ได้เห็นในสมัยนายกฯทักษิณ นายกฯยิ่งลักษณ์หรือไม่อย่างไร จึงทำให้นางมนพรมีความเข้าใจแบบนี้
ผมคิดว่าการจะพูดปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้นผมมั่นใจว่าสภาฯทั้งสภาได้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจึงมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหายาเสพติดขึ้นมา แล้วก็มีคนของพรรคเพื่อไทยอยู่ในสัดส่วนกรรมาธิการด้วย โดบมีชื่อว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหายาเสพติดแนวทางการจัดตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติด การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎรฯ โดยมีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่1กันยายน2563 ผมเห็นส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาเป็นกรรมาธิการมีอยู่หลายท่าน แต่ก็ไม่เห็นส.ส.พรรคเพื่อไทย คนไหนที่อยู่ในกรรมาธิการฯจะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้เลย
อย่างเช่นที่เขาพูดว่าคนรู้มักไม่พูด คนไม่รู้จะชอบพูด ผมเองก็เป็นห่วงว่าคนอย่างนี้พรรคเพื่อไทยไม่ควรจะส่งขึ้นมาอภิปราย ผมขอยกคำโบราณสมัยก่อน เขามีจัดคนไว้4ประเภท แต่ประเภทที่4 หรือเป็นกลุ่มคนที่ควรจะกำจัดออกไปมากที่สุด คือคนจำพวกคนโง่แต่ขยัน คนประเภทนี้มักสร้างความวุ่นวายให้กับสังคม อันตรายต่อสังคมไม่ว่าจะให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใดก็ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้โดยง่าย มันจึงเหมือนคำพูดเปรียบเทียบที่ควรจะพูดให้ส.ส.มนพร จังหวัดนครพนม ได้ฟังว่าการที่เอาข้อมูลเท็จแล้วพูดโดยที่ตัวเองไม่รู้ ถ้าไม่รู้แล้วถามเพื่อนก็ไม่มีใครว่า แต่ปรากฏว่าอันนี้เพื่อนก็ไม่ถามเพราะว่ากรรมาธิการวิสามัญในสัดส่วนพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาอภิปรายแม้แต่คนเดียว เพราะพวกเขาเข้าใจว่าปัญหายาเสพติดนั้นเป็นอย่างไร แล้วการแก้ปัญหานั้นทำอย่างไรและควรจะแก้อย่างไร การที่นางมนพร มาทำตัวพูดจาวกไปวนมา ชาวบ้านเขาส่งข้อมูลมาบอกผมว่าเขาฟังไม่รู้เรื่อง เพราะ เดี๋ยวก็อภิปรายบอกว่าจับมาก เดี๋ยวก็อภิปรายบอกว่าไม่จับ เดี๋ยวก็อภิปรายบอกว่ามีส่วย ชาวบ้านเลยไม่เข้าใจที่อภิปรายว่าสรุปว่าได้จับหรือไม่จับ หรือมีส่วย นั่นก็คือสิ่งที่นางมนพรอภิปราย ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ผมคิดว่าการที่มาอภิปรายแล้วเอากล้วยมาชูในสภาฯนั้นชาวบ้านเขานีกว่าละครตลก ส่วนการอภิปรายในครั้งนี้ผมว่าคนแดนไกลคงไม่ปลื้ม เพราะกระสุนและกระแสนั้นย้อนกลับไปหาคนแดนไกลว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสมัยก่อนหรือไม่ที่นางมนพรพูดเรื่องส่วย เรื่องอมเงินรางวัล อันนี้ชาวบ้านเขาบอกมา ผมจึงขอประเมินว่าการอภิปรายของส.ส.มนพร หรือนางมนพรนั้นสอบตกอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านางมนพรอาจจะไม่ได้เข้าสภาอีกเพราะเอาความเท็จมาพูด วันหลังถ้าจะอภิปรายควรจะไปถามส.ส.เพื่อไทยที่อยู่สัดส่วนกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหายาเสพติดด้วยจะได้มีข้อมูลข่าวสารที่ดีกว่านี้แล้วชาวบ้านถึงจะได้ประโยชน์
ส่วนอีกคนคือนายธีรัจชัย พันธุมาส ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เปิดหลักฐานเรื่องนาฬิกาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ผมว่าไม่มีอะไรที่จะต้องออกมาตอบเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง และเรื่องนี้ในหน่วยงานองค์กรอิสระก็ได้พิจารณาเรื่องนี้ไปเสร็จสิ้นแล้ว แต่ผมเข้าใจว่านายธีรัจชัยนั้น จะเอาเรื่องนี้ไปตัดคลิปแล้วลงโซเซียลเพื่อสร้างความสับสนให้คนเข้าใจในตัวพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐผิดแล้วก็จะลากพาดพิงไปถึงหน่วยงานองค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องนี้ผมอยากจะเตือนว่าให้ไปดูเคสนายรังสิมันต์ โรมให้ดี การอภิปรายถึงบุคคลภายนอกพาดพิงทำให้เขาเสียหาย เขามีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
ดังนั้น ผมคิดว่าท่านธีรัจชัยนั้นน่าจะมีความรู้เรื่องนี้ ไม่ควรจะมาตกม้าตายแบบนี้ การจะกล่าวหาว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นทุจริตก็ควรจะเอาหลักฐานมาเปิด ไม่ใช่เอาหลักฐานป.ป.ช.พิจารณาเสร็จกระบวนการแล้วมาพูดแล้วตัวเองก็อยู่ในกรรมาธิการป.ป.ช.แต่กลับทำอะไรไม่ได้ แล้วแบบนี้ท่านพลเอก ประวิตรไปเกี่ยวอะไร ท่านพลเอกประวิตรก็ชี้แจงแล้วว่านาฬิกานั้นท่านยืมเพื่อนมา ส่วนใครจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ไม่ควรจะมาโน้มน้าวบิดเบือนทำให้คนอื่นเขาเสียหาย เรื่องนี้องค์กรอิสระอย่างป.ป.ช.เขาตอบมาอย่างชัดเจน ไม่ใช่ท่านมโนคิดไปเอง เออเอง เรื่องนี้ผมก็คิดว่าพรรคก้าวไกลเสียคะแนนไปมากและนายธีรัจชัย ชาวบ้านบอกว่าฝีมือตกลงไปเยอะหลังจากเปิดตัวอภิปรายในครั้งแรกเรียกเสียงฮือฮาได้มากเมื่อปี63 แต่การอภิปรายครั้งนี้มีแต่เสียงโห่บ่นด่าเพราะชาวบ้านบอกว่าการอภิปรายนั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตร หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจหน่วยงานป.ป.ช.กันแน่
ส่วนคนสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงอีกคนก็เป็นคนของพรรคก้าวไกลที่ได้ออกมาอภิปรายพลเอกประวิตร เรื่องจีที200ผมก็ไม่เข้าใจว่าไม่รู้จะหาข้อมูลไหนมาอภิปรายพลเอกประวิตร แล้วเหรอ หรือจะวางงานเล่นกลับพรรคเพื่อไทย เพราะจะแย่งฐานคะแนนกันในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ผมอยากจะพูดให้นาย จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.จังหวัดฉุพรรคก้าวไกล นั้นได้เข้าใจว่าการจัดซื้อGT200ครั้งแรกนั้นไม่ได้เริ่มขึ้นในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้เริ่มขึ้นในสมัยพลเอกอนุพงษ์ เป็นผบ.ทบ. ไม่ได้เริ่มขึ้นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ แต่มันเริ่มขึ้นมาครั้งแรกตั้งแต่ปีพ.ศ.2548 เริ่มจัดซื้อครั้งแรกโดยกองทัพอากาศ ผมว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนเขารู้ทันหมด มีแต่นาย จิรัฏฐ์ ที่ไม่รู้ ที่ไม่ยอมทำการบ้านหาข้อมูลผมว่าท่านก็ไปหาเอาละกันว่าในสมัยปีพ.ศ.2548ในช่วงนั้นใครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คนที่มีคดีแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศเหรอ แล้วไม่ใช่คนที่เป็นเจ้านายของพรรคเพื่อไทยเหรอ ตรงนี้ผมแล้วชาวบ้านเขาก็มองออกว่านายจิรัฏฐ์วางงานจะหลอกด่าพลเอกประยุทธ์ แต่สุดท้ายกลับกลายไปหลอกด่าคนแดนไกลหรือไม่อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทยก็เสียคะแนนอีกเช่นกัน
ข้อเท็จจริงก็ปรากฏแล้วว่า ณ เวลานั้นใครเป็นคนเอาจีที200เข้าประเทศ เพราะมันเข้าตั้งแต่ปีพ.ศ.2548ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงนั้น ตอนนี้ก็อยู่หนีดูไบ ผมจึงอยากจะบอกว่าเรื่องจีที200นั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับพลเอกประวิตรอีกเช่นกัน ฉะนั้นการอภิปรายของ3ส.ส.ชาวบ้านเขาบอกผมว่าสอบตก เพราะไม่มีประเด็นใดที่ชัดเจนที่จะบอกได้เลยว่าพลเอกประวิตรนั้นทุจริตต่อหน้าที่ตามญัตติที่ฝ่ายค้านได้เขียนไว้เลย ผมจึงมั่นใจว่าการที่พรรคฝ่ายค้านชอบเขียนเสือให้วัวกลัวนั้น น่าจะใช้ไม่ได้กับท่านพลเอก ประวิตร เพราะพลเอกประวิตรเป็นเสือไม่ใช่วัว จึงลุกออกมาตอบโต้ฝ่ายค้านได้อย่างฉะฉานและแม่นยำ วันนี้ชาวบ้านบอกผมว่าท่านพลเอกประวิตร พูดดี พูดเก่ง ชาวบ้านชื่นชมมากๆมีแต่คนรักลุงป้อม รักลุงตู่ ผมจึงอยากจะบอก3ส.ส. ให้ปรับปรุงตัว แล้วอย่าทำตัวแบบประเภทที่เรียกว่าคนโง่แต่ขยัน เพราะคนประเภทนี้จะชอบสร้างความวุ่นวายให้กับสังคม เป็นอันตรายต่อสังคม ในสมัยโบราณนั้นถ้าอยู่ในช่วงการศึกมีแม่ทัพขุนพลแบบอย่างนี้นี้เขาให้เอาไปประหารตัดหัวเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
"ผมจึงหวังว่าการอภิปรายอีกสองวันสุดท้ายพรรคร่วมฝ่ายค้านคงมีประเด็นดี มีการเตรียมพร้อมที่ดี มีข้อมูลจริงมาอภิปรายให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ฟังจะได้เกิดประโยชน์และไม่เสียเวลาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มาฟังละครน้ำเน่าไร้สาระ หาแก่นสารไม่ได้อย่างที่ 3 ส.ส. ที่มาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอภิปราย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพาดพิงไปถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดังนั้นผมว่าคนที่จะขึ้นอภิปรายในอีก สองวันที่เหลือ อย่าได้ไปทำตามแบบ ส.ส.3คนที่ผมและชาวบ้านได้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวและผิดหวังเป็นอย่างมาก ถ้าสองวันที่เหลืออภิปรายแบบนี้ ชาวบ้านบอกว่ารับรองได้เลย นายกรัฐมนตรีและคณะ ผ่านฉลุย แล้วชาวบ้านเขาจะบอกว่าก็จะเป็นมวยล้มต้มคนดูอีกเช่นเคยเหมือน การอภิปรายตลอด3ปีที่ผ่านมา ที่มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง" นาย สามารถกล่าว ปิดท้าย
No comments:
Post a Comment