เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าสวนเครือข่ายหมอ ให้ข้อมูลด้านเดียว อัดนโยบายแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลว - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Thursday, June 16, 2022

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าสวนเครือข่ายหมอ ให้ข้อมูลด้านเดียว อัดนโยบายแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลว

อาสา ศาลิคุปต 
     ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าโต้เครือข่ายแพทย์ฯ ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน สวนทางงานวิจัยจากต่างประเทศ ทำนายกรัฐมนตรีด่วนสรุปแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อชี้เกือบ 80 ประเทศปลดล็อกหรือให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายพร้อมออกมาตรการป้องกันเด็กได้ ขณะที่การแบนในไทยทำคนใช้พุ่งกว่า 4500% ภายใน4 ปี เตรียมทำหนังสือชี้แจงส่งให้นายกฯ เพื่อพิจารณา


    นายมาริษ กรัณยวัตน์
ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” และเฟซบุ๊กเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่หนังสือสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องแบนบุหรี่ไฟฟ้าว่า

    “พวกเราผิดหวังมากที่นายกรัฐมนตรีฟังข้อมูลเพียงด้านเดียวจากเครือข่ายแพทย์ที่รณรงค์ด้านสุขภาพซึ่งมีอคติ พูดแต่เรื่องความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของอีกเกือบ 80 ประเทศที่อนุญาตให้คนสูบบุหรี่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทนการสูบบุหรี่ได้เพราะเห็นว่ามีสารพิษน้อยกว่าควันบุหรี่ และยังสวนทางกับหน่วยงานสาธารณสุขชั้นนำของโลกเช่น อย. สหรัฐ สธ. อังกฤษ สหภาพยุโรป และนิวซีแลนด์ เป็นต้น”

    นายมาริษ กล่าวต่อว่า “การศึกษาจากหลายประเทศ ซึ่งรวมถึง สถาบันวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASEM) อย. สหรัฐ (USFDA) และ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอังกฤษ (RCP) ระบุว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่อย่างมาก ประเทศอังกฤษเลยสนับสนุนให้ใช้เป็นเครื่องมือเลิกบุหรี่ได้ และพบว่าในปี 2019 คนที่สูบบุหรี่ในอังกฤษ54% เปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าและเลิกบุหรี่ได้ และมีอัตราความสำเร็จที่มากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินทดแทนด้วย ขณะที่ในอเมริกา มีการศึกษาเมื่อปี 2017 เพื่อประเมินเปรียบเทียบการเสียชีวิตด้วยโรคจากการสูบบุหรี่ในช่วงระยะเวลา 10 ปี พบว่าในสถานการณ์ที่ดี (Optimistic Scenario) การเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรลดลง 6.6 ล้านคน และได้อายุขัยกลับคืนมาจากการเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ถึง 86.7 ล้านปี ซึ่งขัดแย้งกับข้ออ้างของเครือข่ายแพทย์ฯ ที่บอกว่าค่ารักษาพยาบาลจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูงถึงกว่าปีละ 5 แสนล้านบาท”

    “การแบนบุหรี่ไฟฟ้าแล้วปล่อยให้คนสูบบุหรี่ต่อไปยิ่งทำให้เสียโอกาสในการรักษาชีวิตคนสูบบุหรี่ปีละ 7-8 หมื่นคนต่อปี และยังทำให้ประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยจากการสูบบุหรี่เป็นจำนวนมหาศาลด้วย ประเทศส่วนใหญ่ในโลกจึงเลือกควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายแทนการแบน เหมือนที่เราเพิ่งปลดล๊อคกัญชาและนำมาควบคุมเพื่อใช้อย่างเหมาะสมพวกเราไม่เข้าใจว่าเหตุใดประเทศไทยจึงดึงดันที่จะเป็นประเทศส่วนน้อยที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป” นายมาริษสรุป

    นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันลาสูบอีกราย เสริมว่า “นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เราจะชี้ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่านโยบายการแบนบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทุกวันนี้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นแบบควบคุมไม่ได้กว่า 4,500%ภายในเวลา 4 ปีจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติหาซื้อได้ง่ายออนไลน์ ทั้งกระทรวงดิจิทัล (ดีอีเอส) หรือตำรวจพยายามจับกุมเท่าไร ก็จับไม่หมด แสดงถึงความล้มเหลวของมาตรการแบน เราจึงไม่ควรรีบด่วนสรุปว่าต้องแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป แต่ควรหาทางออกหรือแนวทางการควบคุมที่เหมาะสมให้กับเรื่องนี้ เช่นเดียวกับที่ สธ. ออกกฎหมายควบคุมกัญชา”

    “ตอนนี้ มีหลายหน่วยงานกำลังศึกษาเรื่องการแบนบุหรี่ฟ้า ทั้งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะทำงานของดีอีเอส และในสภา อย่าง กมธ. พณ. และ กมธ. สธ.ดังนั้น ท่านนายกไม่ควรรีบฟันธง แต่ให้รอผลการศึกษาอย่างเป็นกลางและเป็นระบบก่อน ที่สำคัญที่สุดคือต้องฟังเสียงของประชาชนผู้ใช้ผู้บริโภคและประเมินนโยบายการแบน 8 ปีที่ผ่านมาว่าล้มเหลวอย่างไร ทำไมคนใช้พุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีการควบคุม ก่อให้เกิดธุรกิจใต้ดิน การรีดไถ การจับกุมผู้ใช้ นักท่องเที่ยว และการทุจริตคอรัปชั่นและป้องกันเด็กเยาวชนได้จริงหรือไม่ ซึ่งพวกเราก็จะทำหนังสือพร้อมยื่นผลการศึกษาและวิธีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในต่างประเทศให้กับท่านนายกและทุกหน่วยงานที่ท่านสั่งการเพื่อรับทราบเป็นข้อมูลด้วยเช่นกัน” นายอาสา กล่าว

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages