"ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ" ต้นแบบเส้นทางการศึกษา สร้างบุคลากรชั้นนำ - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Monday, April 19, 2021

"ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ" ต้นแบบเส้นทางการศึกษา สร้างบุคลากรชั้นนำ


    
กสศ. ช่วยน้องๆ บรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 เฟ้นหาเด็กช้างเผือกขาดแคลนทุนทรัพย์ขอรับ”ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ” สานฝันอนาคตไม่ให้หลุดจากระบบ หนุนเสริมศึกษาต่อระดับสูงเพิ่มพูนทักษะวิชาชีพ


    น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมและทุนการศึกษากสศ. เปิดเผยว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทวีความรุนแรงขึ้น เด็กและเยาวชนในครอบครัวที่ขาดแคลนทุนทรัพย์มีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเลื่อนชั้นเรียนระดับต่างๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีศักยภาพในการพัฒนาตัวเองมากเพียงใดก็ตาม

    ดังนั้น กสศ.จึงต้องการเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนผ่าน “ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ ” ซึ่งเป็นหนึ่งในทุนสร้างโอกาสทางการศึกษาที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าวและยังเป็นต้นแบบการลงทุนสนับสนุนให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสที่มีศักยภาพได้ศึกษาต่อในระดับสูงให้ผลตอบแทนกลับสู่ประเทศไทยอย่างคุ้มค่า

    จากการศึกษา OECD พบว่าประเทศไทยมีเด็กกลุ่มช้างเผือก (Resilient Student) หรือเด็กที่มีฐานะยากจนในกลุ่ม 25 เปอร์เซ็นต์ล่างสุดของประเทศ แต่มีความรู้ความสามารถในระดับเทียบเท่ากับเด็กที่เรียนดีในกลุ่ม 25 เปอร์เซ็นต์สูงสุดประมาณ 3.3 เปอร์เซ็นต์ของเด็กกลุ่มยากจนหรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 6,111 คน ซึ่งเด็กช้างเผือกกลุ่มนี้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์มีความคาดหวังต้องการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย” น.ส.ธันว์ธิดา กล่าว

    อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริง เยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้อยู่ในกลุ่มต่ำสุด 20 เปอร์เซ็นต์แรกของประเทศมีโอกาสศึกษาต่อระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายเพียงร้อยละ 5เท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประชากรทั้งประเทศซึ่งมีโอกาสศึกษาต่ออยู่ที่ร้อยละ 32 หรือมีช่องว่างทางการศึกษา แตกต่างกันถึง 6 เท่า



    
“เด็กกลุ่มนี้หากไม่ได้รับการสนับสนุนในด้านทุนการศึกษาให้เรียนต่อ ก็มีแนวโน้มที่จะต้องออกนอกระบบการศึกษา หรือรับการศึกษาในมาตรฐานคุณภาพที่ไม่สามารถทำให้ศักยภาพได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ กลายเป็นแรงงานด้อยทักษะ ซึ่งจะเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์อันมีคุณค่าของประเทศไปอย่างน่าเสียดาย” ผอ.สำนักนวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. กล่าว
 
    ผลจากการวิจัยพบว่าการลงทุนส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับสูง เป็นการสร้างกำลังคนสายอาชีพที่มีคุณภาพและจะช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและสังคมของไทยในอนาคต โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าร้อยละ 10 และให้ผลตอบแทนทั้งในส่วนบุคคลต่อสถานประกอบการ และต่อสังคม และการลงทุนในลักษณะเช่นนี้ได้มีการทำในหลาย ๆ ประเทศ ที่เน้นการส่งเสริมให้คนกลุ่มน้อย คนยากจน คนชายขอบ ผู้ที่ไม่มีใครในครอบครัวเคยเรียนระดับมหาวิทยาลัย ได้เข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษา โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในการช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถเลื่อนยกระดับทางสังคม (Social Mobility) และส่งผลถึงการขจัดความยากจนข้ามชั่วคนได้ (Generations)

    น.ส.ธันว์ธิดา กล่าวด้วยว่า ระบบการศึกษาที่สนับสนุนสายอาชีพในปัจจุบัน โดยเฉพาะทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับสูง (ปริญญาตรี โทและเอก) มีน้อยกว่าสายทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ กสศ. ต้นแบบทุนสร้างโอกาสให้เด็กช้างเผือก ฉะนั้น กสศ. จึงได้ริเริ่ม ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ ” หรือ ทุนพัฒนาเต็มศักยภาพสายอาชีพ ต้นแบบทุนสร้างโอกาส ที่สนับสนุนให้กลุ่มเด็กช้างเผือกที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส ได้เรียนต่อเต็มศักยภาพ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ

    สำหรับ ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส.ได้รับการศึกษาต่อเต็มศักยภาพตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โท เอก โดยไม่ต้องใช้ทุนคืนหากเรียนจนจบการศึกษา ถือเป็นทุนแรกของรัฐบาลที่ส่งเสริมการศึกษาสายอาชีวศึกษาเป็นการเฉพาะและมุ่งให้แก่กลุ่มยากจนและด้อยโอกาส และสนับสนุนทุนในสาขาที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้ประเทศไทย 4.0

    ทุนนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมเฉพาะการเรียนต่อปริญญาตรี โท เอก อย่างเดียว แต่ต้องสามารถคิดค้นนวัตกรรมได้โดยมีระบบหนุนเสริมนักศึกษารายบุคคล (Individual Development) ทั้งทักษะวิชาการที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่สำคัญ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต (Soft Skills and Life Skills) อีกด้วย


    
ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมและทุนการศึกษากสศ. กล่าวด้วยว่า กสศ.ยังจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาด้านเกษตรนวัตกรรมและวิศวกรรม กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการบ่มเพาะนักศึกษาในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท และจะมีการดำเนินการลักษณะเดียวกันกับมหาวิทยาลัยอื่น เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อให้นักศึกษาทุนสามารถเข้าถึงกระบวนการหนุนเสริมได้อย่างเหมาะสมกับบริบท

    นอกจากนี้ กสศ.ยังร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดโอกาสการเรียนรู้ทางปฏิบัติให้นักศึกษาทุนและเชื่อมโยงให้ภาคเอกชนเป็นพี่เลี้ยงการทำโครงงาน/วิจัย การสนับสนุนทุน Co-funding รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายและกลไกเพื่อนช่วยเพื่อนในกลุ่มนักศึกษาทุน กิจกรรมช่วยเหลือสังคมและชุมชน

    “นักศึกษาเหล่านี้จะเติบโตเป็นต้นแบบบุคลากรสายอาชีพชั้นนำของประเทศ เป็นผู้นำที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษารุ่นต่อไปประสบความสำเร็จ ยกระดับภาพลักษณ์การเรียนอาชีวศึกษา ที่สามารถเติบโตเป็น นักวิจัย ผู้ประกอบการ ไม่ใช่เพียงแค่ลูกจ้างเท่านั้น ถือเป็นการพัฒนาต้นแบบเส้นทางการศึกษาสายอาชีพ (Pathway) ที่ต่อเนื่อง และพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง ทำนองเดียวกับประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษา เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์” น.ส.ธันว์ธิดา กล่าว

    อนึ่ง กสศ.อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพรุ่นที่ 3ระหว่างวันที่ 15 – 30 เมษายน 2564 โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่กำลังจบการศึกษาระดับ ปวช. / ปวส.หรืออนุปริญญา มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 และกำลังเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและได้รับการคัดเลือกศึกษาในระดับปริญญาตรีหลักสูตร 4 ปี หรือหลักสูตรต่อเนื่องหรือเทียบโอน 2 – 3 ปี ภาคปกติ ชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2564 ในสาขาที่เป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (First S-Curve) อุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) หรือสาขาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science, Technology, Engineering, Mathematics: STEM) และเทคโนโลยีดิจิทัล กรณีที่เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 3 ปี ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 3.00 ลูกจ้างพนักงานที่มีคุณสมบัตินี้สามารถสมัครขอรับทุนได้เช่นกัน

    ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ผ่านเว็บไซต์ www.eef.or.th/ หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-079-5475 กด 4 ตามวันเวลาราชการ

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages