นักวิจัยสำรวจพบสินค้าผสมกัญชาขายในไทยเพียบ หวั่นสังคมแย่ลง วอนช่วยกันดูแล - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Thursday, February 24, 2022

นักวิจัยสำรวจพบสินค้าผสมกัญชาขายในไทยเพียบ หวั่นสังคมแย่ลง วอนช่วยกันดูแล


    ที่นิยมสุดคือหัวน้ำหวานแทนยาแก้ไอ อึ้งพบ 4x100 สำเร็จรูป ขายเกลื่อนออนไลน์ ห่วงผลกระทบสาร THC สมองหยุดพัฒนา เสี่ยงจิตเภท ซึมเศร้า หลอดเลือดหัวใจ สมอง ยันมะเร็งอัณฑะ เทียบคุกกี้ไทย พบกัญชาสูงกว่าอเมริกา 5 เท่า

    ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) : เพื่อการพัฒนาศักยภาพการวิจัย และนักวิชาการการเสพติด ครั้งที่ 9 ผ่านระบบ ZOOM โดย รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผอ.ศศก. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการปลดกัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติดแล้ว และกำลังรอการออกกฎหมายมาควบคุม ยกเว้นสารสกัด THC เกิน 0.2% ที่ยังถือเป็นยาเสพติด ซึ่ง 8% ของคนที่มีการใช้กัญชานานๆ โดยเฉพาะเด็กจะมีปัญหาจากกัญชาตามมา โดยจากการสำรวจของ ศศก. เมื่อปลายปี 2564 พบว่า คนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปประมาณ 1.89 ล้านคน หรือ 4.3% มีการใช้กัญชา ซึ่งเพิ่มขึ้น จากปี 2563 ที่ผลสำรวจประมาณการผู้ใช้กัญชาอยู่ที่ 1 ล้านคน เนื่องจากประเทศไทยมีการอนุญาตให้มีการใช้บางส่วนของกัญชาได้


    รศ.ดร.เกื้อการุณย์ ครูส่ง อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่นิยมนั่งคุย หรือทำงานนานๆ ในร้านขายเครื่องดื่ม จึงมีโอกาสที่จะได้ลองเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชามากขึ้น ซึ่งขณะนี้ตนและคณะอยู่ระหว่างศึกษาวิจัยหาปริมาณสาร THC ในเครื่องดื่มที่จำหน่ายในร้าน โดยเก็บตัวอย่างเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา 30 ตัวอย่าง ในร้านค้าในกทม. ทั้งประเภทชา และประเภทที่ใส่นม เปรียบเทียบกับประกาศแนบท้ายกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับเกณฑ์การอนุญาตให้มี THC เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 0.015 มิลลิกรัมต่อ 100 ML ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่าบางตัวอย่างพบพีคของสาร THC เกินเกณฑ์ บางตัวอย่างก็ไม่พบ แต่สรุปในเบื้องต้นพบ 70% ยังอยู่ในเกณฑ์ประกาศ สธ. ส่วนการศึกษาในต่างประเทศ เช่น ยุโรป อิตาลีพบผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC สูงที่สุดคือชากัญชง หรือ เฮมพ์

    ด้าน ผศ.ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ นักวิจัยอิสระ กล่าวว่า จากการสำรวจตลาดออนไลน์ในประเทศไทยปี 2564-2565 พบว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมจำนวนมากทั้งรูปแบบกัญชา ขนม เยลลี่ เครื่องดื่ม ยาแก้ไอ เครื่องดื่ม 4x100 สำเร็จรูป กัญชาผสมในบุหรี่ไฟฟ้า และอื่น ๆ ทั้งนี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2564 คือรูปแบบน้ำหวานทดแทนยาแก้ไอ 46% เครื่องดื่มลีน 22% กัญชา 11% เยลลี่เมา 10% เห็ดเมา 6% ทั้งนี้ มีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูด ให้เห็นว่ากัญชาเป็นสินค้าที่น่ารัก น่าใช้ สร้างความเชื่อว่าเป็นสิ่งไม่อันตราย โดยเฉพาะการขายทางออนไลน์ส่วนการควบคุม ตรวจสอบ มีการอ้างการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โฆษณาเกินจริง มีการส่งเสริมการขายจัดโปรโมชั่น ลดราคา ส่งฟรี เป็นต้น และยังมีการใช้ผู้มีอิทธิพลในการสื่อสารรีวิว ยูทูปเบอร์ และขายแฟรนไชส์เพื่อเป็นการขยายตลาด เป็นต้น ดังนั้นถึงปลดล็อคแล้วยังต้องมีการตรวจสอบ และสร้างความรู้ที่ดีไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะน่ากลัวมาก


    ขณะที่ ผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สาร THC จะแอคทีฟได้ต้องผ่านความร้อน รวมถึงละลายได้ดีในไขมัน ที่ผ่านมาในต่างประเทศพบคนเอาไปสูบกับอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าพบว่า ปอดอักเสบในผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น สูงถึง 82% เกิดจากกัญชาผสม ทั้งนี้เมื่อดูในส่วนผสมกันในผลิตภัณฑ์ของกินต่างๆ พบว่าใน FDA ของสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้ใส่เลย แต่รัฐต่างๆ สามารถออกข้อกำหนดของตัวเองได้ โดยบางรัฐได้กำหนดปริมาณที่ปลอดภัยในระยะสั้นเอาไว้ไม่เกิน 5 มิลลิกรัม แต่ไม่ได้การันตีผลในระยะยาว เช่นคุกกี้เฉลี่ย 1 ชิ้นมี 20 มก. ก็มีแนะนำให้กิน 1 ใน 4 ของชิ้น เยลลี่หมีมี 10 มก.ต่อชิ้น บราวนี่ 250 มก.ต่อชิ้น และมีคำแนะนำในการกินในปริมาณน้อยเพื่อดูผลก่อน ไม่ควรกินซ้ำเพราะจะทำให้ได้รับสารกัญชาเกินขนาด 

 

    แต่ในทางปฏิบัติ พฤติกรรมของคนไม่ได้แบ่งกินเช่นนั้น เมื่อเทียบกับการตรวจคุกกี้ในไทยพบว่า 1 ชิ้นมีกัญชา 0.498% โดยน้ำหนัก ขนาดกลาง จะได้ 0.00996% คิดเป็นมิลลิกรัมได้ 99 มิลลิกรัม เยอะกว่าคุกกี้สหรัฐ 5 เท่า ดังนั้นถึงมีภาพคนกินคุกกี้แล้วเข้ารพ. ยกเว้นคนเสพกัญชา หรือใช้จนช่ำชองถึงจะไม่เป็นอะไร ส่วนมือใหม่เสี่ยงเข้ารพ.ซึ่งปีที่ผ่านมา ออสเตรเลียมีแม่ลูกสั่งคุกกี้มากินแต่อยู่ ๆ ลูก 5 ขวบก็กรีดร้อง ร้านออกมายอมรับเนยมีส่วนผสมของกัญชา แต่เอาไว้ทำกินเองไม่รู้ว่าปนมากับกัญชาที่เสิร์ฟให้ลูกค้าได้อย่างไร 

 

    ดังนั้นถามว่าประเทศไทยพร้อมแล้วหรือไม่ ที่ผ่านมายังมีข่าวพริตตี้ถูกหลอกกินบราวนี่กัญชาทำคอแห้ง ภาพหลอน ตาพร่ามัว เพื่อนต้องพาไปหาหมอ ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่การหยิบผิด แต่มีการเอาไปใช้เพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝง ดังนั้นต้องช่วยกันดูแลลูกหลาน

    ผศ.นพ.สหภูมิ กล่าวต่อว่า นั่นคือผลระยะสั้น ส่วนผลระยะยาวที่พบคือ โรคทางจิตเพิ่มขึ้น 3.9 เท่า การลงมือฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ติดกัญชาได้ 10% หากเป็นวัยเรียนมีโอกาสติดเพิ่มเป็น 17% นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเรียนรู้ สมาธิสั้น และปัญหาความจำ ถึงหยุดใช้ไปนานถึงหกปีแต่สมองด้านการใช้แบบมีเหตุผลก็ยังไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม นอกจากนี้ ยังทำให้สมองฝ่อ ถุงลมโป่งพอง เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดแขน-ขาตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะเพิ่มความเสี่ยงหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และเรื้อรัง สัมพันธ์กับมะเร็งอัณฑะและมะเร็งปอด และยังพบขับรถชนเสียชีวิตในอเมริกาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าประกันจะจ่ายหรือไม่ กรณีตรวจเจอกัญชา รวมถึงอาจจะมีผลในการพิจารณารับเข้าทำงาน


 

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages