สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประกาศพร้อมจัดงาน ซับคอนไทยแลนด์ คู่ขนานไปกับ อินเตอร์แมค 2020 งานแรกของปีเพื่อผู้ประกอบการไทยด้วย การรวมสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมงานแสดงอุตสาหกรรมการผลิต พร้อมเชื่อมโยงสายการผลิตจับคู่ธุรกิจแบบออนไลน์ ช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน วันที่ 23-26 กันยายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประสานพลังพันธมิตรรายใหญ่จากภาครัฐ-เอกชนมากที่สุดแห่งปี ประกาศความพร้อมจัดงาน ซับคอนไทยแลนด์ (SUBCON Thailand) คู่ขนานไปกับ งานอินเตอร์แมค (INTERMACH) งานแสดงสินค้าภาคอุตสาหกรรมแบบครบวงจรครั้งยิ่งใหญ่ ที่รวมความก้าวหน้าด้าน เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ครบวงจรที่สุด และงานจับคู่ธุรกิจครั้งสำคัญแห่งปี ตอบโจทย์ความต้องการทุกมิติด้านอุตสาหกรรมการผลิต ปีนี้จัดงานแบบไฮบริด เอ็กซ์ซิบิชั่น (Hybrid Exhibition) ครบองค์ประกอบกับการจัดการแสดงแบบองค์รวมโดยการใช้เทคโนโลยีออนไลน์ดิจิตอลผสมผสานกับการจัดงานแสดงสินค้าทั่วไปตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุคนิว นอร์มัล เน้นความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานและผู้ร่วมจัดงานตามมาตรฐานระดับโลกอย่าง อินฟอร์มา ออลซีเคียว (Informa All Secure) ระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทคบางนา
นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า งาน ซับคอนไทยแลนด์ เป็นการจัดงานคู่ขนานมากับงานอินเตอร์แมคมาโดยตลอด ซึ่งเป็นงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจชั้นนำระดับภูมิภาค รวบรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมคุณภาพกว่า 200 ราย ผู้ผลิตชิ้นส่วนงานโลหะ พลาสติกและยาง ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตและให้บริการในอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ และพาวิเลียนจากสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย พร้อมจัด BUYER’s VILLAGE ชุมนุมผู้ซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำที่เป็นตัวจริงเสียงจริงมากที่สุดในอาเซียน และโซนจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมสนับสนุนอากาศยานและศูนย์ซ่อมบำรุง และพลาดไม่ได้กับไฮไลท์ของงานกับกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ช่วยผลักดันเศรษฐกิจและผู้ประกอบการให้เดินหน้าหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายสู่ความสำเร็จด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจผู้ซื้อ ผู้ผลิตและผู้ขายชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำ โดยในปีนี้ BOI ยังคงทำหน้าที่เชิญ Buyers จากหลากหลายประเทศเข้ามาร่วมงานอย่างคับคั่งไม่เปลี่ยนแปลง โดยเตรียมกิจกรรมการจับคู่ออนไลน์ (Business matching online platform) ไว้รองรับผู้ซื้อต่างชาติในปีนี้อีกด้วย
นางสาวซ่อนกลิ่น กล่าวว่า ในปีนี้ แม้ยังมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ทำให้การทำธุรกิจ การผลิต การบริการของทุกภาคส่วน รวมถึงของภาครัฐต้องหยุดหรือชะลอตัว แต่บีโอไอยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมมุ่งสู่เป้าหมายสนับสนุนและกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศที่กำลังมองหาชิ้นส่วนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมเชื่อมโยงออนไลน์ “BUILD’s E-Linkage” ซึ่งจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) การสร้างตลาดกลางซื้อขายชิ้นส่วนออนไลน์ (online Market Place) การเสริมความรู้ด้านต่างๆ ไปพร้อมกันด้วยการสัมมนาออนไลน์ รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้ารับช่วงการผลิต ซับคอนไทยแลนด์ ที่จะมาเป็นไฮไลท์ในการเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายของปีนี้ ด้วยการนำเอากิจกรรมออนไลน์มาเสริมการจัดงานให้มีการผสมผสานงานแบบเดิมและออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อรายสำคัญให้ได้หลากหลายมิติมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ซื้อจากต่างประเทศ ที่วางแผนจะเข้ามาเยี่ยมชมงานและจัดซื้อชิ้นส่วนในประเทศไทย แต่ไม่สามารถเข้ามาได้เพราะติดปัญหาโควิด-19 ซึ่งเราคาดหวังว่า งานนี้จะสร้างแนวโน้มการเชื่อมโยงธุรกิจการลงทุนแบบใหม่ที่เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของงานอีกปีหนึ่ง
นายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า วิกฤต โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมซับคอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดยในส่วนของสมาชิกของสมาคมในปัจจุบันที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 500 บริษัท ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งบางรายได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยตรง อาทิ การหยุดคำสั่งซื้อ ยกเลิกการผลิต การแบกภาระค่าแรงงาน โดยที่ยังไม่ปลดคนงาน ทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่อง แต่สมาชิกก็มีความพยายยามเพื่อต่อสู้กับวิกฤตนี้ โดยพบว่า กลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุดคือ กลุ่มเครื่องมือแพทย์ อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มระบบรางและชิ้นส่วน และอะไหล่ทดแทน ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของทั้งการส่งออกและยอดจำหน่ายในประเทศที่ลดลง อย่างไรก็ตามในช่วงที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายผู้ประกอบการได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวและประคับประคองธุรกิจ โดยปรับไปสู่คลัสเตอร์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นที่ต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนเพื่อการดูแลสุขภาพและอนามัยเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด อุตสาหกรรมการบิน ระบบราง ซึ่งมุ่งไปสู่การอุตสาหกรรมใหม่อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังเน้นไปในการพัฒนาสู่ระบบ ออโตเมชั่น (Automation) Internet of Things และ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนในระยะยาว ทั้งค่าแรง และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์และกิจการหากเกิดการสงสัยและต้องมีการเฝ้าระวังในกรณีที่มีคนติดโควิดในโรงงานเกิดขึ้น ซึ่งต้นทุนการใช้ AI ในปัจจุบันก็ไม่มากเท่าอดีต และในระยะยาวก็คุ้มค่าและ ปลอดภัย โดยการร่วมงาน ซับคอน ไทยแลนด์ในปีนี้ ถือเป็นโอกาสดีต่อสมาชิกและผู้ประกอบการในอุตซับคอนทั้งระบบที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด และยังเป็นโอกาสอันดีที่สมาชิกจะได้จับคู่ธุรกิจผ่านทางกิจกรรมไฮไลท์ของงาน นำพาให้สมาชิกได้เจอคู่ธุรกิจใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้เกิดการทำธุรกิจสู่อนาคตผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ในงานซับคอน ไทยแลนด์ในปีนี้ สมาคมฯ ได้มีการนำเสนอการจัดแสดงอุตสาหกรรมซับคอนที่น่าสนใจ ทั้งในส่วนของ PAPR หรืออุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ ที่เข้ากับสถานการณ์ของการระบาดของโรคโควิดในช่วงนี้ และการจัดแสดงโชว์ระบบราง ระบบออโตเมชั่นในการผลิตที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้ประกอบการควรมาเรียนรู้และอัพเดตเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นายเกียรติศักดิ์กล่าว
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจการจัดแสดงสินค้าและกิจกรรมสำหรับเจรจาธุรกิจ ระดับนานาชาติ และพันธมิตรภาครัฐและเอกชน มีความพร้อมที่จะจัดงานตามมาตรฐานระดับโลกอย่าง อินฟอร์มา ออลซีเคียว (Informa All Secure) ในรูปแบบ ไฮบริด เอ็กซ์ซิบิชั่น (Hybrid Exhibition) หรือการจัดแสดงแบบครบองค์รวม ที่รองรับทั้งการจัดแสดงงานในรูปแบบปกติ (Physical exhibition) และการจัดแสดงแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition) ในปีนี้จะพิเศษกว่าทุกปีโดย งานซับคอนไทยแลนด์ (SUBCON Thailand) และอินเตอร์แมค (INTERMACH) จัดพร้อมกับงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 (ASE2020) งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมด้านพลังงานที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน และงาน Boilex Asia and Pumps & Valves Asia & 2020 งานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางด้านหม้อไอน้ำ ภาชนะรับแรงดัน ปั๊ม วาล์ว และอุปกรณ์เกี่ยวข้อง งานเดียวของประเทศไทย จะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของงานได้ที่ www.intermachshow.com และ www.subconthailand.com
No comments:
Post a Comment