“พาว มิราเคิล” ต่อยอดตลาดสมุนไพรไทย ลงทุนเพิ่มกว่า 20 ล้านบาท ยกระดับสู่สากล - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Monday, April 4, 2022

“พาว มิราเคิล” ต่อยอดตลาดสมุนไพรไทย ลงทุนเพิ่มกว่า 20 ล้านบาท ยกระดับสู่สากล


    พาว มิราเคิล ผู้นำสมุนไพรเพื่อสุขภาพด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่มีงานวิจัยรองรับ ลงทุนเพิ่ม 20 ล้านบาท ร่วมต่อยอดสมุนไพรไทย จับมือ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกแบบและพัฒนาระบบนำส่งของสารสกัดกัญชงและพลูคาวด้วยระบบนำส่งในระดับนาโนเมตร เพิ่มมูลค่าสินค้า ตั้งเป้าภายในปี 2566 ขึ้นแท่นเป็นบริษัทผู้นำสมุนไพร 1st innovation herb
 

    นายอธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัทฝ่ายการตลาด พาว มิราเคิล กล่าวถึงความสำเร็จของพาว มิราเคิล และความร่วมมือล่าสุดกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติเพื่อการออกแบบและพัฒนาระบบนำส่งของสารสกัด กัญชงและพลูคาวด้วยระบบนำส่งในระดับนาโนเมตร ว่า “เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตลาดสมุนไพรไทย พาว มิราเคิล ซึ่งเป็นบริษัท ชั้นนำของสมุนไพรเพื่อสุขภาพ มีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีงานวิจัยรองรับ พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย โดยเฉพาะจาก กัญชาและพลูคาว อย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี สามารถสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจ พาว มิราเคิล โดยในปีที่ผ่านมา ยอดขายผลิตภัณฑ์สารสกัดพูลคาว สร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ในขณะที่ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรกำลังเป็นที่สนใจจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ  



    โดยเมื่อปีที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ไว้ว่า ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของประเทศไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีมูลค่าการใช้และการส่งออกรวมกว่า 80,000 ล้านบาท ตลอดจนผลพวงจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พบว่ามูลค่าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% รวมถึงแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย กำหนดเป้าหมายให้เพิ่มมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรและให้ไทยเป็นผู้นำการส่งออกสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ฯ เป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ทำให้ตลาดสมุนไพรไทยเติบโตก้าวกระโดด 

     จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ พาว มิราเคิล มองโอกาสเติบโตของธุรกิจ ล่าสุดจึงลงทุน 20 ล้านบาท ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘พาว มิราเคิล’ เริ่มด้วยโปรเจคแรก ด้วยการลงนามในความร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ในการพัฒนาระบบนำส่งของสารสกัดกัญชงและพลูคาวด้วยระบบนำส่งในระดับนาโนเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสมุนไพร ให้สามารถนำส่งสารสำคัญได้ลงลึกถึงระดับนาโนเซลล์ และเมื่อเราได้ค้นพบว่าเมื่อนำสารสกัดกัญชงและพลูคาวที่ผ่านกระบวนการนาโนเทคโนโลยีดังกล่าวมารวมกัน จึงก่อให้เกิดสารออกฤทธิ์ใหม่ เป็นครั้งแรกของโลก


    และจากความร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘พาว มิราเคิล’ สร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคในด้านคุณภาพสินค้า ในขณะเดียวกันยังเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ในระดับสากล เจาะตลาดได้เพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มประเทศ CLMV และยังสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายในระดับบน ด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่ผ่านกระบวนการนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือ เป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ในตลาดสมุนไพรไทย
 

    นอกเหนือจากความเหนือชั้นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ พาว มิราเคิล ที่กำหนดมาตรฐานการผลิตสินค้าออกสู่ตลาดโดยกำหนดไว้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ต้องมี certificate ใบรับรองจากหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ว่าไม่มีสารต้องห้าม ไม่มีสารอันตราย (Non-Toxic) ผ่านการทดสอบการแพ้ (Allergy Free) โดยผ่านการทดลองในระดับคลินิค ในสัตว์ทดลอง และมนุษย์ (Clinical Trial-Animal Trial-Human Trial) ที่ทำให้ พาว มิราเคิล ประสบความสำเร็จในตลาดสมุนไพรไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกปัจจัยสำคัญคือการกำหนดกลยุทธ์การทำตลาดที่ชัดเจน โดยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย คือ พร้อมการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ บริษัทฯ ได้พัฒนา Loyalty program ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดในการรักษาฐานลูกค้าเก่าซึ่งมีมากกว่า 50,000 ราย และสามารถต่อยอดจูงใจลูกค้าใหม่ให้เข้ามาในระบบสมาชิกได้มากขึ้นอีกด้วย
 


    ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ พาว มิราเคิล เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความใส่ใจของ อธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้มีไลฟ์สไตล์ใส่ใจสุขภาพ และสนใจความมหัศจรรย์ของสมุนไพรพื้นบ้าน โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สกัดจากพืชสมุนไพรพลูคาว สายพันธ์พิเศษ และ CBD ในกัญชง ที่มีสารออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ และชะลอวัย โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 4 กลุ่ม 1.Herb technology nutrition 2.Green superfood 3.Aromatic solution 4.Herb oral care ซึ่งทั้งใน 4 กลุ่มนี้ กลุ่ม Herb technology nutrition เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุด รองลงมาคือ Green superfood ตามลำดับ สามารถทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบ CLMV โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าจากการลงทุนต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 %

 

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages