สสส. สานพลัง พชอ. ภาคีเครือข่ายอีสานตอนบน ถอดรหัสชุมชนล้อมรักษ์ สู่ "นครพนมสุขที่สุด" - Siam Highlight

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Thursday, November 6, 2025

สสส. สานพลัง พชอ. ภาคีเครือข่ายอีสานตอนบน ถอดรหัสชุมชนล้อมรักษ์ สู่ "นครพนมสุขที่สุด"


    
บำบัดผู้เสพหนึ่งรายเท่ากับจับผู้ค้าได้หนึ่งคน ลดภาระค่าใช้จ่ายระบบบริการสุขภาพระยะยาว

    เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมเวลาดี นครพนม จ.นครพนม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อน “ชุมชนล้อมรักษ์” (CBTx) พื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยใช้กระบวนการชุมชนล้อมรักษ์ ผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ซึ่งเป็นแกนหลักที่สำคัญต่อการแก้ปัญหายาเสพติด โดยได้ดำเนินการ 4 มิติ คือ 1.ป้องกัน 2.เฝ้าระวัง 3.บำบัดฟื้นฟู 4.ช่วยเหลือผู้ผ่านการฟื้นฟูให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติโดยมีชุมชนเป็นฐาน (Community-based) เพราะฐานรากที่สำคัญของชุมชนคือประชาชน และถ้าชุมชนเข้มแข็งประเทศจะเข้มแข็ง แนวทางนี้จึงไม่ใช่แค่ป้องกันยาเสพติดแต่คือการสร้างสังคมที่โอบอุ้มกันและกันให้คนหลงผิดมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง


    
รศ.ดร.เภสัชกร วิทยา กุลสมบูรณ์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องอาศัยพลังความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และโดยเฉพาะพลังชุมชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุด การใช้เวที CBTx พื้นที่อีสานตอนล่างด้วยการถอดบทเรียนและระดมความคิดจะทำให้เกิดแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหลาย ๆ รูปแบบและสามารถนำไปปรับใช้ตามบริบทพื้นที่แต่ละจังหวัด ซึ่ง สสส. ก็จะเดินหน้าร่วมไปกับทุกคนและจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญหนุนเสริมทั้งด้านองค์ความรู้ กระบวนการทำงาน และการเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย เพื่อทำให้เกิดการขยายผลสู่ระดับอำเภอในทุกมิติจนสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยใช้แนวทางจากชุมชนล้อมรักษ์ให้กลายเป็นชุมชนปลอดภัย หากกระบวนการเหล่านี้สามารถช่วยลดผู้เสพผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่องก็จะช่วยดค่าใช้จ่ายในระบบบริการสุขภาพได้เช่นเดียวกัน

    “ เราลองคิดดูว่าผู้เสพยาเสพติดเพียงคนเดียวเกิดผลกระทบมากมายมหาศาล สิ่งที่เราไม่อยากเห็นคือการก่อความรุนแรง เพราะฉะนั้นหากเราสามารถล้อมรั้ว ให้ความรัก สร้างแรงบันดาลใจให้เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จนกลับมาเป็นคนปกติมีงานทำได้ถือว่าคุ้มค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับการที่เราจะต้องทำหน้าที่ในการรักษาพยาบาลในหลายขั้นตอน วงการสาธารณสุขถ้าเราไม่ป้องกันค่าใช้จ่ายในระบบบริการสุขภาพจะสูงมากหากไม่ดำเนินการลดผู้เสพหน้าเก่าหรือสกัดผู้เสพหน้าใหม่ให้ได้ ยกตัวอย่างจังหวัดนครพนมโดยมีเขตติดต่อกับพื้นที่ชายแดนก็มักจะมีเรื่องการนำเล็ดลอดเข้ามาของยาเสพติด แต่เรากลับพบเรื่องความสำเร็จของชุมชนที่ร่วมกันปกป้องให้ชุมชนและผู้คนในชุมชนห่างไกลยาเสพติด โดยผ่านกลไกการทำงานระดับ พชอ. ผ่านแนวทาง CBTx ต้องยอมรับวว่าต้องใช้เวลาในการดึงคนเสพหรือใช้ยาเสพติดกลับมาสู่อ้อมกอดชุมชน แต่ถือว่าคุ้มมากเพราะเป็นการให้โอกาสพวกเขาโดยไม่ไม่ตีตราและให้เขามีงานทำถือว่าเป็นการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน” รศ.ดร.เภสัชกร วิทยา กล่าว


    
นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ กล่าวว่า หนึ่งในกระบวนการรักษาผู้บำบัดที่สำคัญ คือช่วงระยะเวลาของการติดตามตลอด 1 ปีที่ถูกส่งต่อให้ชุมชนดูแลด้วยการล้อมรักษ์เป็นช่วงระยะเวลาวัดใจว่าผู้บำบัดจะกลับไปใช้สารเสพติดหรือไม่ หากใช้แนวทาง CBTx ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจเราจะได้ลูกหลานหรือญาติพี่น้องเรากลับคืนมา การมีชุมชนเข้มแข็งจึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บำบัดหายขาดจากภาวะสมองติดยาด้วย เพราะฉะนั้นหากเรามีอำเภอหรือแม้แต่ตำบลหนึ่งเดียวในจังหวัดต่าง ๆ ที่สามารถทำได้จะเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนที่สอดคล้องกับงานด้านปราบปรามคือเมื่อสามารถดึงผู้ใช้สารเสพติดเข้าสู่กระบวนการได้หนึ่งคนเท่ากับสามารถจับกุมผู้ค้าได้หนึ่งราย

    “การรักษาให้ได้ผลจริงคือไม่ผู้บำบัดต้องไม่ใช้หรือเสพสารเสพติดตลอดระยะเวลา 1 ปี ซึ่งต้องเกิดจากทุกภาคส่วนมาทำงานร่วมกัน ท้องถิ่น ชุมชน มหาดไทย ตำรวจ สาธารณสุข จึงล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี จนสามารถควบคุมให้ผู้ใช้สารเสพติดปรับความคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมจากด้านมืดเป็นด้านสว่างได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เราต้องอาศัยชุมชนเข้มแข็งสักแห่งในหนึ่งอำเภอเป็นสถานที่เริ่มปฏิบัติการให้เห็นจริงก่อนเพื่อเป็นต้นแบบนำไปสู่การขยายผลให้ CBTx กระจายไปในทุกพื้นที่” นายแพทย์ยงยุทธ กล่าว


    
นายศุภณัฐ เพ็ชรอินทร์ ปลัดอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม กล่าวว่า พื้นที่ของนครพนมยึด ‘นครพนมโมเดล’ เป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ทั้งการปราบปราม ป้องกัน บำบัด ฟื้นฟู ซึ่งหนึ่งในกลไกที่เข้ามาเสริมแกร่งคือกระบวนการ CTBx ชุมชนล้อมรักษ์ ในทุกมิติ ควบคู่กับแนวทางของอำเภอที่ขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาและขยายเครือข่ายประชาชนด้านการข่าวเพื่อสร้างแหล่งข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วนำไปสู่การแก้ปัญหายาเสพติดอย่างทันท่วงที การ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติแบบครบวงจร รวมไปถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนในพื้นที่ชายแดนเพื่อผลักดันจุดผ่อนปรนชายแดนในพื้นที่ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และการสร้างความสุขให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมผ่านแนวคิด “นครพนมสุขที่สุด” นี่คือสิ่งที่เราป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเข้าถึงประชาชนของเราในทุกมิติ


    
“จริง ๆ ชุมชนไม่ต้องการอะไรเลยนะครับ เขาเพียงต้องการมีชีวิตที่อยู่อย่างสงบสุข อยู่แบบสบายใจ เราจึงมีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของและร่วมกัน รับผิดชอบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตไปด้วยกันเพื่อให้คนในชุมชนมีสุขภาวะทางกาย จิตและสังคมที่ดี” ปลัดอำเภอ กล่าว

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages