ญาติไรเดอร์วอนกระทรวงแรงงาน เยียวยาครอบครัว หลังเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างทำงาน

    เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่กระทรวงแรงงาน ครอบครัวไรเดอร์ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในระหว่างการทำงาน ร่วมกับองค์กรเครือข่ายแรงงานและประชาสังคม ประกอบด้วย สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา และกลุ่มไรเดอร์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บริหารกระทรวงแรงงานเพื่อเรียกร้องให้กองทุนเงินทดแทนให้การเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตระหว่างการทำงาน

    นางผกาวรรณ ห้อยแดง ญาติ น.ส.จิราวรรณ คงใหญ่ ไรเดอร์อายุ 20 ปี ซึ่งถูกรถชนบาดเจ็บสาหัสขณะขับรถจักรยานยนต์ส่งของให้บริษัทไลน์แมนเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา กล่าวว่า ขณะที่ น.ส.จิราวรรณ ขับรถส่งของให้บริษัทไลน์แมนตามปกตอ แต่เมื่อถึงบริเวณถนนสุขุมวิทก็เกิดอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกชนบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้เยาวชนคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 20 ปี ที่กำลังมีอนาคต ทำงานช่วยเหลือครอบครัว และมีความหวังว่าจะไปเรียนมหาวิทยาลัย แต่ต้องมาเสียชีวิตระหว่างการทำงาน เป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว จึงมาขอให้กระทรวงแรงงานให้ความเป็นธรรม โดยการเยียวยาตามระเบียบกองทุนเงินทดแทน ต่อครอบครัวผู้สูญเสีย

    ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ พันธ์ประสิทธิ์ ตัวแทนกลุ่มไรเดอร์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดอุบัติเหตุกับ น.ส.จิราวรรณ ทางกลุ่มไรเดอร์ได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยแจ้งข่าวในกลุ่มไรเดอร์ ช่วยกันประสานกู้ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมทั้งระดมเงินค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือครอบครัว น.ส.จิราวรรณ กันเองในเบื้องต้น จากนั้นจึงแจ้งให้บริษัทที่ น.ส.จิราวรรณ ทำงานให้ทราบถึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

    "เมื่อไรเดอร์เกิดอุบัติเหตุพิการ เสียชีวิต บริษัทแพลตฟอร์มในประเทศไทย ควรต้องมีมาตรฐานในการรับผิดชอบต่อความสูญเสีย เหมือนคนทำงานบริษัททั่วๆ ไป ดิฉันเองก็เพิ่งประสบอุบัติเหตุ ขั้นตอนการเบิกจ่ายยุ่งยาก ใช้เวลานาน กรณีน้องแพร จึงเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับความเป็นธรรม เพื่อไรเดอร์ทุกคนมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดต้องมีการเยียวยาครอบครัวอย่างเป็นธรรม เราจึงมาที่กระทรวงแรงงานในวันนี้ และหากมองระยะยาวประเทศไทยควรมีกฎหมายที่รองรับสถานะ รูปแบบการทำงานของกลุ่มไรเดอร์ได้แล้ว อย่าลืมว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาไรเดอร์คือส่วนสำคัญที่ทำให้เราผ่านจุดวิกฤตนั้นมาได้ การมีระบบคุ้มครองที่เป็นธรรมจึงเป็นเรื่องจำเป็น" น.ส.สุภาภรณ์ กล่าว